หลายฝ่ายรุดแห่ช่วยหนุ่มเยอรมันขาบวม หลังนั่งขอทานในถนนข้าวสาร จนมีคนพาแชร์กันว่อนเน็ต เจ้าตัวเผยไม่ได้ป่วยเป็นโรคเท้าช้างแต่เป็นความผิดปกติตั้งแต่เด็ก พร่ำซึ้งน้ำใจสาวไทยหมอนวดแผนโบราณ ที่ช่วยเหลือดูแลให้ข้าวให้น้ำมาตั้งแต่ต้น หลังถูกขโมยเอกสารและพาสปอร์ตจนต้องมานั่งขอทานหาเงินกลับประเทศ ด้านตำรวจท่องเที่ยวเตือนนักท่องโลกออนไลน์ บางเรื่องที่เห็นอาจไม่ใช่เรื่องจริง

หลังมีการแชร์กันกระหึ่มเฟซบุ๊ก กรณีนายเบนจามิน โฮลเซ่ อายุ 29 ปี ชาวเยอรมัน ป่วยเป็นโรคเท้าช้างถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ และเอกสารสำคัญ ไม่มีเงินเดินทางกลับประเทศ ต้องนั่งขอทานอยู่บริเวณถนนข้าวสาร เป็นที่น่าสงสารแก่ผู้พบเห็น เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 10.00. น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.ท.ปิยพงษ์ บุขุนทศ รอง สว.กก.1 บก.ทท. พร้อมด้วย ดร.ชุมพล เที่ยงธรรม ประธานสมาคมเยอรมันช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมัน เดินทางไปที่ วีเอส เกสต์เฮาส์ ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยมี น.ส.ภูษนิศา ดารีย์ หรือเหมย อายุ 30 ปี ผู้แจ้งขอความช่วยเหลือให้กับนายเบนจามิน ยืนรอพบเจ้าหน้าที่

น.ส.ภูษนิศากล่าวว่า ตนเป็นพนักงานร้านนวดแผนโบราณอยู่ที่ถนนข้าวสาร ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา เห็นนายเบนจามินนั่งขอทานอยู่ใกล้ๆ กับร้านที่ตนทำงาน ได้สอบถามจนทราบว่า นายเบนจามินเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้ 3 อาทิตย์ โดยมาคนเดียวและถูกขโมยกระเป๋าสตางค์พร้อมเอกสาร ไม่มีเงินใช้ และไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ เพราะพาสปอร์ตหายไปด้วย ส่วนขาที่บวมนั้นไม่ได้เกิดจากโรคติดต่อ แต่เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดอะไร ด้วยความสงสารจึงซื้อข้าวและน้ำให้ตลอด 1 อาทิตย์ กระทั่ง 2 วันที่ผ่านมา ได้ถามนายเบนจามิน ว่าอยากกลับบ้านไหม นายเบนจามินตอบว่า อยากกลับ จึงได้พาไปแจ้งความเอกสารหายที่ สน.ชนะสงคราม ก่อนพาไปสถานทูตเยอรมันเพื่อทำหนังสือเดินทาง แต่ทางสถานทูตแจ้งว่าต้องใช้เงินในการทำ 2,500 บาท นายเบนจามินไม่มีเงิน เลยพากลับมาพักที่วีเอส เกสต์เฮาส์และออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะที่พักเก่าของนายเบนจามินที่อยู่ในซอยรามบุตรีถูกล็อก ต้องจ่ายค่าเปิดห้อง 500 บาท นำเครื่องใช้ส่วนตัวออกมาก่อนประสานขอความช่วยเหลือกับตำรวจ

...

ด้านร.ต.ท.ปิยพงษ์กล่าวว่า หลังพบว่ามีการแชร์เรื่องนี้ในโลกออนไลน์ ได้ประสานไปยังสมาคมเยอรมันช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และสถานทูตเยอรมัน เพื่อให้ความช่วยเหลือและส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ทราบว่าทางสมาคมจะรับดูแลในเบื้องต้น ส่วนตำรวจจะอำนวยความสะดวกจนกว่าจะกลับประเทศ

และขอฝากถึงผู้ที่อยู่ในโลกโซเชียลว่า บางเรื่องที่เห็นอาจจะไม่เป็นเรื่องจริงก็ได้ อย่างกรณีนี้ ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวถึง ในขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเพิ่งจะทราบเรื่องเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และเข้าช่วยเหลือทันที ไม่ได้ปล่อยปละละเลยอย่างที่แชร์กัน

ขณะที่นายเบนจามินกล่าวว่า เข้ามาประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยว โดยมาเพียงคนเดียว ไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับตน ส่วนในเรื่องขาตนนั้น ผิดปกติตั้งแต่เกิด และไม่ได้เป็นโรคติดต่อ อย่างไร ก็ตาม รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจ น.ส.ภูษนิศา ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ยังมาให้ความช่วยเหลือ จนเรื่องของตนโด่งดังในโลกโซเชียล ตอนนี้มีความสุข เป็นประสบการณ์ที่ดีที่มีคนไทยให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักและอาหารการกิน ส่วนเงินที่มีคนนำมาให้ตอนไปนั่งตามที่ต่างๆ จะไว้ใช้จ่ายซื้อข้าวซื้อน้ำ และบางทีก็ซื้อเบียร์มาดื่มถ้ามีเงินเหลือพอ และถ้าเป็นไปได้หลังกลับไปประเทศบ้านเกิดแล้ว ถ้ามีเงินพอจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง

ในส่วนของสมาคมเยอรมันช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ดร.ชุมพลกล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า นายเบนจามินเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. โดยซื้อตั๋วมาเที่ยวเดียวไม่ได้ซื้อตั๋วขากลับไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอการตรวจสอบกับทาง ตม.อีกครั้งว่านายเบนจามินเดินทางมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ ในกรณีลักษณะแบบนี้พบกันบ่อยในชาวต่างชาติที่ต้องการจะมาอยู่เมืองไทย เพราะคิดว่าประเทศไทยเป็นแผ่นดินสวรรค์ มีความอิสระเสรี อยากจะทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง สำหรับสมาคมมีหน้าที่ดูแลคนเยอรมันที่อยู่ในประเทศไทยประมาณ 50,000 คน หลังจากนี้สมาคมจะรับดูแลเบื้องต้นในเรื่องที่พักและความเป็นอยู่ ส่วนในวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.นี้ จะพานายเบนจามินไปสถานทูตเยอรมันเพื่อทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และรอการตรวจสอบจากสถานทูตเพื่อออกวีซ่าให้ก่อนพากลับสู่ประเทศบ้านเกิดต่อไป